คิดยังไง...เราเราถึงได้มารีโนเวทบ้านให้แม่
อยากเป็นลูกกตัญญู...งั้นเหรอ...
ไม่ใช่หรอก...แค่นี้ก็เป็นลูกกตัญญู...อภิชาตบุตรอยู่แล้ว
จริงๆแล้ว งานรีโนเวทครั้งนี้ ไม่ได้มาจากความคิดว่าจะรีโนเวทแต่อย่างใด
แต่เริ่มต้นจากการที่อยากให้พ่อแม่ได้อยู่ในที่ที่ดีขึ้น สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น
ด้วยความที่สภาพบ้านเดิม ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ด้วยอายุบ้านมากกว่า20+ปี
ส่วนที่ต่อเติมเริ่มทรุดและลาดเอียง ถึงขั้นรู้สึกได้ตอนไปยืนว่าพื้นเอียง จนรู้สึกว่าอันตรายมากๆ ถ้าจะต้องให้ป๊ะป๊าอยู่ที่บ้านส่วนต่อเติมนี้
เคยชวนแม่ไปดูบ้านใหม่ หรือชักชวนให้ย้ายบ้าน มาอยู่ใกล้ๆ แต่แม่ไม่อยากย้าย ด้วยความที่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมเดิม และเพื่อนบ้านที่ดี ต่อให้หาที่อยู่ใหม่ สวยกว่า ใหม่กว่ายังไง ก็ไม่เท่ากับอยู่ที่เดิม
ทำให้ต้องมาลงเอยด้วยการตัดสินใจรีโนเวททั้งบ้านแทน
พอถึงวันสุดท้าย ที่ต้องย้ายของทุกอย่างออกจากบ้าน จนถึงวันที่เริ่มทำการทุบรื้อทิ้งก็พอจะเข้าใจแล้วว่า ทำไม แม่ถึงไม่อยากย้าย
เพราะบ้านหลังนี้ เต็มไปด้วยความทรงจำ
ที่ๆเราได้มี ห้องนอนส่วนตัวครั้งแรก เป็นแหล่งพักพิงและที่อ่านหนังสือยามว่าง
ที่ทำให้เราได้อ่านหนังสือดีๆมากมาย จน shape ให้เราเป็นเราในทุกวันนี้
ที่ๆเราได้เรียนคีย์บอร์ดครั้งแรก
ที่ๆป๊ะป๊า เตรียมสอบเตรียมอุดมให้เรา
ที่ๆเรานั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้าแพทย์ และแม่ก็ยังมาช่วยติวด้วย
และยังเป็นที่ๆเราจัดงานแต่งงานงานไทยอีกด้วย
พอคิดแบบนี้ น้ำตาก็ไหลพรั่งพรูออกมา เข้าใจในความผูกพันที่แม่มีกับบ้านหลังนี้แล้วละได้แต่หวังว่าเจตนารมณ์ ครั้งนี้จะทำให้เราได้พบผู้รับเหมาที่ดี consultที่ดี ที่ทำให้โปรเจคนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ดีด้วยเถอะนะ สาธุ!!