หลังจากผิดหวังไปในครั้งที่แล้ว สำหรับการหาผู้รับเหมาในดวงใจ เรานั่งทบทวนว่า ความผิดพลาดครั้งนี้ของเราเกิดจากอะไร และเราจะทำอย่างไร ให้ดีขึ้นในครั้งหน้า ใช่ค่ะ! เราไม่ท้อ และเรายังไม่เข็ด ในการที่ถูกผู้รับเหมาหลอก เรายังเชื่ออยู่ว่า ผู้รับเหมาที่ดีๆ มีอยู่จริง เพียงแต่เรายังหาไม่เจอเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้น เราต้องเปลี่ยนวิธีใหม่ ในการหาผู้รับเหมา

          หลังจากนั่งทบทวนความผิดพลาดของตัวเอง เราก็ได้เห็นแล้วละ ว่า เราผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้น เพราะถ้าเราต้องการความน่าเชื่อถือ และคุณภาพงานเป็นหลัก มันอันตรายมากเลย ที่ไปเริ่มหาจากใน facebook เพราะก็รู้ๆกันอยู่ ว่าภาพต่างๆใน facebook มันมีการสร้างภาพ หรือสร้างเนื้อหา ให้เราเข้าใจผิดได้ง่ายมากๆ เพราะฉะนั้น เราต้องเริ่มใหม่ โดยการเริ่มหาจาก Website ของบริษัท รับสร้างบ้านต่างๆ ที่ดูน่าเชื่อถือ มีที่อยู่ของบริษัทเป็นหลักเป็นแหล่ง แบบกล้า ที่จะ ปักหมุด ลงใน Google Map อะไรแบบนี้ เช็คกับ DBD ว่า บริษัทมีตัวตนจริง เปิดมาแล้ว หลายๆปี มีที่อยู่บริษัท ที่เชื่อถือได้ ผลงานเป็นของบริษัททจริง จริงๆ Facebook เราก็แอบส่งอยู่ดี เพื่อดูว่า วิธีการสื่อสารกับลูกค้าเป็นอย่างไร มีงานอย่างต่อเนื่องหรือไม่

          หลังจากเปลี่ยนวิธีการเริ่มต้นหาผู้รับเหมาใหม่ เราก็ได้ส่งแบบบ้านและ BOQ ไปให้อีกประมาณสัก...1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 โอ้ นี่นั่งนับดู ประมาณ 10 เจ้าจริงๆ จริงๆแล้ว มีเยอะกว่านี้อีกที่ได้โทรติดต่อไป หรือส่งไป แต่ไม่ตอบกลับมา ประกอบกับ นั่งดูผลงานของผู้รับเหมาที่ทาง Consult ของเรา เค้าส่งมาให้ ทางฝั่งเค้ามี 2 เจ้า

          จาก 10 เจ้าที่เราส่งไป ส่งราคากลับมา (ภายในช่วงเวลาประมาณ ไม่ถึง 1 สัปดาห์) ประมาณสัก 5-6 เจ้าเท่านั้น เท่าที่เราสังเกตดู บริษัทรับสร้างบ้านใหญ่ๆ โดยเฉพาะ บริษัทที่อยู่ในสมาชิกของสมาคมรับสร้างบ้าน จะชอบคิดราคาเป็น xx,xxx บาท ต่อตร.ม. ซึ่งมันจะทำให้ราคาถูกบวกเกินความเป็นจริงไปค่อนข้างมาก ยิ่งบ้านของเรา มีข้อบังคับ เรื่องต้องใช้เข็มเจาะ ราคาที่เสนอมาตอนแรก มักจะไม่รวมเข็มเจาะ ทำให้เราต้องบวกค่าเข็มไปอีก อย่างน้อยๆก็ สองแสนกว่าบาท ทั้งๆที่ในความเป็นจริง เขาควรจะหักค่าเข็มเจาะ ที่นับรวมใน xx,xxx บาทต่อตร.ม. ตอนแรก และคูณเฉพาะส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นมาของเข็มเจาะ ซึ่งบอกได้เลยว่า ไม่มีเจ้าไหนทำแบบนั้น จากที่ถามมาเป็น 10 กว่าเจ้า สมมติคิดราคาเสาเข็มเจาะ 12,000-18,000 ต่อต้น ก็จะคูณไปเลย ตามจำนวนต้น ไม่มีเจ้าไหน มาหักค่าเข็มตอกออกให้เราเลย เพราะฉะนั้น ในความเห็นเรา หากบริษัทในประเมินมาแบบ xx,xxx บาทต่อตร.ม. แล้วเอาแบบของเรา ไปแค่นั่งคำนวณ ว่ามีพท.ใช้สอยเท่าไหร่ แล้วเคาะราคามาให้เรา โดยไม่ List มาใน BOQ นะ ส่วนใหญ่เราจะตัดออก เพราะ มักจะเกินงบไปมากๆๆ 

          อีกข้อสังเกตนึงที่เราเจอ ในบริษัทรับสร้างบ้าน ใหญ่ๆ ก็คือ เขามักจะใช้ ผู้รับเหมาช่วง ต่ออีกทีนึง ก็คือ เค้ารับงานจากเรา บวกราคาเราสูงๆ แล้วไปจ้าง ผู้รับเหมาต่อ มาสร้างให้เรา โดยเขาจะได้ส่วนต่างราคาเป็นค่าตอบแทน แลกกับการรับประกัน service ต่างๆ หรือความน่าเชื่อถือต่างๆให้เราไว้วางใจสร้างกับเขา ที่เรารู้แบบนี้ก็เพราะ มีบริษัทรับสร้างบ้านเจ้านึง ตั้งใจจะส่งไฟล์ราคาบ้านมาให้เรา แต่เขาพลาดส่งผิด เป็นรายการบัญชี ว่าแต่ละเดือน จ่ายให้ช่างชื่ออะไร เท่าไหร่บ้าง ซึ่งรายชื่อ ก็เป็นในนามบุคคลทั้งนั้น พอดีว่าเขาส่งทางไลน์มา มันยกเลิกการส่งเหมือนข้อความไม่ได้ เราจึงเห็นทั้งหมดเลย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น บริษัทรับสร้างบ้านใหญ่ๆ ก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ไปทั้งหมด บางเจ้ามีช่างเป็นทีมของตัวเอง และไม่ใช้ผู้รับเหมาช่วงต่อ ก็มีค่ะ

          สุดท้ายแล้ว เจ้าที่เราได้ว่าจ้างเขา ก็ได้ติดต่อมา ตอนแรกเราก็เกือบจะตัดออกไปแล้ว เพราะด้วยความที่เราร้อนใจมาก อยากได้ผู้รับเหมาะเร็วๆ เราติดต่อไปบริษัทนี้ ตั้งแต่เย็นวันศุกร์ แต่เขาติดต่อเรามาวันจันทร์ และส่งเรื่องให้วิศวกรติดต่อเรามาวันอังคาร เราบอกว่า เราขอเร็ว เพราะต้องการสรุปผู้รับเหมา ให้ได้ภายในเสาร์นี้ และต้องการทั้งหมดตามใน BOQ ภายในงบเท่านี้ ตอนที่เราพูดไป เราไม่คิดว่าเขาจะทำให้ทัน เพราะเราตั้งใจตัดเขาออกอยู่แล้ว เพราะคิดว่า ราคาน่าจะแรงอยู่ เนื่องจากดูเป็นบริษัทใหญ่ และไม่ประทับใจที่ติดต่อเข้ามาช้า ปรากฎว่า บ่ายวันพฤหัสบดี เขาโทรมาแจ้งราคาเรา เกินงบไปเล็กน้อย แต่ยังต่อรองได้ ไม่ราคาแรงแบบ บริษัทใหญ่อื่นๆ เพราะไม่ได้คิดเป็นบาทต่อตารางเมตร แล้วคูณพท.ใช้สอย บริษัทนี้ ลงรายละเอียดมาใน BOQ ให้

          หลังจากนั้น เราจึงได้นัดคุยกับบริษัทนี้ เมื่อวันเสาร์ และมีอีกหนึ่งบริษัท ที่ Consult เราหามา เพื่อมาเทียบกัน บริษัทนี้ ที่เราได้ว่าจ้างเค้านี้ มีความเป็นมืออาชีพสูงมาก Presentงานและราคา โดยเอา Notebook มาเปิดให้ดู (ซึ่งอันนี้ไม่เคยเจอ เพราะอย่างว่า ตอนแรกหาแต่ผู้รับเหมาทั่วไปมาคุย) รู้ขั้นตอน รู้งานจริง ทุกอย่างเป็นStep มีขั้นมีตอนมีการวางแผน ที่สำคัญ ภายในระยะเวลาไม่กี่วันที่ได้เริ่มติดต่อ (วันอังคารจนถึงวันเสาร์ที่นัดคุย) เขาได้ให้ลูกน้องเข้ามา Survey ที่ดินของเราเรียบร้อย คือ ไม่ได้บอกให้เรารู้ตัวกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีทัศนคติในเรื่องของการบริหารคนและเงินให้ effective เพื่อให้ได้งานเร็วที่สุด เราประทับใจที่เขาพูดว่า ยิ่งเขาทิ้งคนอยู่ที่ site ของเรานานเท่าไหร่ เขาก็จะมี cost ที่มากขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าเขาสามารถบริหารงานให้ site เราจบเร็ว เขาสามารถ move คนของเขา ไปทำที่ site อื่นๆต่อ เพื่อให้ได้งานที่มากขึ้น มันจะยิ่งเป็นผลดีกับเขามากกว่า ซึ่งตรงนี้ เราคิดในใจว่า ไม่ใช่แต่เขาจะ save cost เราเองก็ save ด้วยเหมือนกัน เพราะยิ่งก่อสร้างนานเท่าไหร่ เราก็มีค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไประหว่างก่อสร้างมากขึ้นเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น ค่า Consult หรือ ดอกเบี้ยธนาคาร ที่ต้องผ่อนไปก่อนทั้งๆที่ยังไม่ได้บ้าน ค่าเดินทางหรือค่าเสียเวลา ค่าเสียโอกาสจากการปล่อยเช่าคอนโดในเมือง เพราะยังขนย้ายของเข้ามาในบ้านใหม่ไม่ได้ เพราะไม่มีที่เก็บของ ฯลฯ อีกมากมาย สุดแท้แต่ที่จะนึกถึง โดยสรุปคือ เราคิดว่า สิ่งที่เราให้ Value ของเรากับผู้รับเหมาเจ้านี้ ตรงกัน คือ เวลา บวกกับความประทับใจในความ Professional ของเขา ที่แม้แต่ Consult ของเรายังเอ่ยปากเลย ว่า “ผมยังประทับใจในความ Professional ของเจ้านี้ อยู่เลยครับ เขามีทุกอย่างที่ผู้รับเหมาที่ดีควรจะมี”

          ในขณะที่อีกเจ้า ซึ่งเป็นบริษัทที่ Consult ของเราหามา รอบแรก ไม่ได้ส่งราคามา อาจจะยุ่งหรืออะไรก็แล้วแต่ และ Consult ของเราก็ตามแล้วหลายรอบ พอเราผิดหวังจากผู้รับเหมารอบแรก Consultเราเลยกล่อมให้เค้าส่งราคามาอีกครั้ง ซึ่งจังหวะนั้น เป็นจังหวะที่งานของเขากำลังจะสร้างเสร็จพอดี เขาจึงเริ่มสนใจงานของเราขึ้นมา (จริงๆ timeframe ตรงนี้ ห่างกันแค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น) จุดนี้ ที่แฟนเรามองว่า ไม่มีการวางแผน เดิมมีกำหนดว่าจะส่งราคามาให้ วันพุธ สุดท้ายแล้วส่งจริงๆ คือ ดึกๆของวันศุกร์ และก็นัดคุยวันเสาร์เลย รายการ BOQ เสนอราคาทีไม่ตรงกับวัสดุที่ระบุ และยังไม่ได้มีการ survey งาน ยังไม่ทราบเงื่อนไข ที่สำคัญบางอย่าง ของการสร้างบ้านเรา พูดง่ายๆคือ ยังไม่ได้ทำการบ้านมามากพอ แต่เขาพูดกับเราว่า อยากที่จะได้รับงานนี้ อยากสร้างบ้านให้เรา คือเรารู้สึกว่า สิ่งที่เขาพูด กับสิ่งที่เขาทำหรือแสดงให้เห็น มันตรงกันข้ามกันโดยสิ้นเชิง อีกอย่างหนึ่งก็คือ เรื่องของเวลา ผมคิดว่า น่าจะสร้าง 8 เดือนครับ แต่คิดว่า อยากจะทำสัญญาไว้ที่ 10 เดือน เพราะไม่อยากรีบเร่งอะไรมา (เราเจอผู้รับเหมาพูดประมาณนี้หลายเจ้าเหมือนกัน คำว่า ไม่อยากรีบเร่ง จึงขอขยายเวลาสัญญา) ซึ่งจะเห็นได้ว่า ทัศนคติแตกต่างจากเจ้าแรกโดยสิ้นเชิง ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลที่เราไม่เลือกเจ้านี้

          อันนี้ แค่เรื่องทัศนคติล้วนๆ ในการทำงาน ยังไม่ได้พูดประเด็นเรื่องเงื่อนไขต่างๆ โดยรวมๆ เงื่อนไขของเจ้าแรก ค่อนข้างจะโหดกว่าเจ้าที่สองอยู่บ้าง แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่สมเหตุสมผล ดังนั้น สุดท้ายแล้ว เราจึงตัดสินใจที่จะ “ไว้วางใจ” เลือกเจ้านี้ให้มาสร้างบ้านให้เรา โดยเสียงเป็นเอกฉันท์ ทั้งเรา แฟน และ consult